Technological Tools for the Literacy Classroom
DOI: 10.4018/978-1-4666-3974-4.ch001
|View full text |Cite
|
Sign up to set email alerts
|

Literacy and Technology

Abstract: This chapter takes a look at technology and how it has influenced literacy through the ages. Technology has been utilized in writing since the Sumerians started using clay tablets and styluses and developed the cuneiform. This chapter also discusses prominent technology that has been used in the classroom from lead pencils and slates to iPads. With the invention of the Internet, a new form of literacy (Information Literacy) has also become important in education. Research has shown that the success or failure … Show more

Help me understand this report

Search citation statements

Order By: Relevance

Paper Sections

Select...

Citation Types

0
0
0
1

Publication Types

Select...
1

Relationship

0
1

Authors

Journals

citations
Cited by 1 publication
(1 citation statement)
references
References 2 publications
0
0
0
1
Order By: Relevance
“…จากการศึ กษาเอกสารและงานวิ จั ยที ่ ผ่ านมาพบว่ า กรอบคิ ดด้ านการประเมิ นของครู จะมี ความสั มพั นธ์ กั บการปฏิ บั ติ ด้ านการประเมิ นในชั ้ นเรี ยน โดยครู ที ่ มี กรอบคิ ดแบบเติ บโตจะใช้ การ ประเมิ นในห้ องเรี ยนเพื ่ อพั ฒนาและสร้ างโอกาสในการเรี ยนรู ้ ของนั กเรี ยนให้ เท่ าเที ยมกั น (Jensen, 2004;Zeeb, et al, 2020) หากครู จั ดประสบการณ์ การเรี ยนรู ้ ให้ แก่ นั กเรี ยนตามความสามารถของ นั กเรี ยนเพื ่ อที ่ จะให้ นั กเรี ยนประสบความสำเร็ จ เมื ่ อประเมิ นเที ยบกั บมาตรฐานที ่ ครู กำหนดขึ ้ น โดยคำนึ งถึ งความสามารถของนั กเรี ยน พั ฒนานั กเรี ยนแต่ ละบุ คคคลเพื ่ อให้ ไปถึ งเป้ าหมายที ่ ครู กำหนดไว้ โดยพั ฒนาและสร้ างโอกาสในการเรี ยนรู ้ ของนั กเรี ยน ให้ เท่ าเที ยมกั น สิ ่ งที ่ สำคั ญคื อ การวั ด ระดั บความสามารถของนั กเรี ยน หากครู มี การจั ดการเรี ยนสอนและการประเมิ นตามข้ อความที ่ กล่ าว ข้ างต้ น แสดงว่ าครู มี กรอบคิ ดแบบเติ บโตในการประเมิ น (DeLuca, et al, 2019;Jensen, 2004;Master, 2013;Zeeb, et al, 2020) อี กทั ้ งผลจากการเรี ยนรู ้ ของนั กเรี ยนที ่ เกิ ดขึ ้ น จะช่ วยให้ ครู ได้ ข้ อมู ลที ่ สำคั ญเกี ่ ยวกั บการสอนของตน ได้ วิ ธี การเรี ยนรู ้ และประยุ กต์ ใช้ ทั กษะใหม่ ที ่ นั กเรี ยน ได้ เรี ยนรู ้ ของนั กเรี ยนที ่ มี ผลการเรี ยนต่ างระดั บกั น ซึ ่ งจะช่ วยให้ ครู ปรั บปรุ งการสอนที ่ จะช่ วยนั กเรี ยน ทุ ก ค น เรี ย น รู ้ ได้ (The Alberta Teachers' Association, 2 0 1 6 ) จ ะ เห็ น ได้ ว่ าก รอ บ คิ ด ในการประเมิ นของครู และวิ ธี การที ่ ครู ปฏิ บั ติ นั ้ นมี ความเกี ่ ยวข้ องกั นอย่ างมาก (DeLuca, et al, 2019 ;Jensen, 2004 ;Master, 2013 ;Zeeb, et al, 2020) (Liang, 2010) การพั ฒนาแนวทางกรอบคิ ดแบบเติ บโตและการปฏิ บั ติ การประเมิ นในชั ้ นเรี ยนของครู ให้ เหมาะสมนั ้ นผู ้ วิ จั ยจะต้ องมี สารสนเทศในอดี ตก่ อนว่ า การที ่ ครู มี กรอบคิ ดและการปฏิ บั ติ การประเมิ น ในชั ้ นเรี ยนที ่ แตกต่ างกั นนั ้ นเป็ นเพราะเหตุ ใด ประเด็ นสำคั ญอี กหนึ ่ งประเด็ นก่ อนที ่ จะนำเสนอแนว ทางการส่ งเสริ ม ผู ้ วิ จั ยต้ องวิ เคราะห์ ว่ าปั จจั ยใดบ้ างที ่ ส่ งผลต่ อกรอบคิ ดและการปฏิ บั ติ ด้ านการ ประเมิ นในชั ้ นเรี ยนของครู เพื ่ อนำไปสู ่ การพั ฒนาแนวทางทั ้ งนี ้ ข้ อค้ นพบจากการวิ จั ยที ่ ส่ วนใหญ่ มุ ่ ง พั ฒนาไปที ่ การศึ กษาระดั บการรู ้ เรื ่ องการประเมิ นของครู (Eyal, 2012;Mertler & Campbell, 2005;Volante & Fazio, 2007;Perry, 2013) ผู สำหรั บองค์ ประกอบของกรอบคิ ดจากการสั งเคราะห์ เอกสารและงานวิ จั ยที ่ เกี ่ ยวข้ อง ผู ้ วิ จั ย ได้ สั งเคราะห์ องค์ ประกอบที ่ นำไปสู ่ การส่ งเสริ มกรอบคิ ดแบบเติ บโตและการปฏิ บั ติ การประเมิ นในชั ้ น เรี ยนของครู จำนวน 3 องค์ ประกอบคื อ 1)การให้ ความสำคั ญกั บความคิ ดเห็ นของนั กเรี ยน 2) การวั ด และประเมิ นผลด้ วยความเป็ นธรรม และ 3) การเห็ นความสำคั ญของผลการประเมิ นที ่ ผ่ านมา (Jensen, 2004DeLuca et al, 2019Zeeb et al, 2020) และการปฏิ บั ติ การประเมิ นในชั ้ นเรี ยน ประกอบด้ วย 3 ด้ าน ได้ แก่ 1) การกำหนดเป้ าหมายของการวั ดและประเมิ น 2) กา...…”
unclassified
“…จากการศึ กษาเอกสารและงานวิ จั ยที ่ ผ่ านมาพบว่ า กรอบคิ ดด้ านการประเมิ นของครู จะมี ความสั มพั นธ์ กั บการปฏิ บั ติ ด้ านการประเมิ นในชั ้ นเรี ยน โดยครู ที ่ มี กรอบคิ ดแบบเติ บโตจะใช้ การ ประเมิ นในห้ องเรี ยนเพื ่ อพั ฒนาและสร้ างโอกาสในการเรี ยนรู ้ ของนั กเรี ยนให้ เท่ าเที ยมกั น (Jensen, 2004;Zeeb, et al, 2020) หากครู จั ดประสบการณ์ การเรี ยนรู ้ ให้ แก่ นั กเรี ยนตามความสามารถของ นั กเรี ยนเพื ่ อที ่ จะให้ นั กเรี ยนประสบความสำเร็ จ เมื ่ อประเมิ นเที ยบกั บมาตรฐานที ่ ครู กำหนดขึ ้ น โดยคำนึ งถึ งความสามารถของนั กเรี ยน พั ฒนานั กเรี ยนแต่ ละบุ คคคลเพื ่ อให้ ไปถึ งเป้ าหมายที ่ ครู กำหนดไว้ โดยพั ฒนาและสร้ างโอกาสในการเรี ยนรู ้ ของนั กเรี ยน ให้ เท่ าเที ยมกั น สิ ่ งที ่ สำคั ญคื อ การวั ด ระดั บความสามารถของนั กเรี ยน หากครู มี การจั ดการเรี ยนสอนและการประเมิ นตามข้ อความที ่ กล่ าว ข้ างต้ น แสดงว่ าครู มี กรอบคิ ดแบบเติ บโตในการประเมิ น (DeLuca, et al, 2019;Jensen, 2004;Master, 2013;Zeeb, et al, 2020) อี กทั ้ งผลจากการเรี ยนรู ้ ของนั กเรี ยนที ่ เกิ ดขึ ้ น จะช่ วยให้ ครู ได้ ข้ อมู ลที ่ สำคั ญเกี ่ ยวกั บการสอนของตน ได้ วิ ธี การเรี ยนรู ้ และประยุ กต์ ใช้ ทั กษะใหม่ ที ่ นั กเรี ยน ได้ เรี ยนรู ้ ของนั กเรี ยนที ่ มี ผลการเรี ยนต่ างระดั บกั น ซึ ่ งจะช่ วยให้ ครู ปรั บปรุ งการสอนที ่ จะช่ วยนั กเรี ยน ทุ ก ค น เรี ย น รู ้ ได้ (The Alberta Teachers' Association, 2 0 1 6 ) จ ะ เห็ น ได้ ว่ าก รอ บ คิ ด ในการประเมิ นของครู และวิ ธี การที ่ ครู ปฏิ บั ติ นั ้ นมี ความเกี ่ ยวข้ องกั นอย่ างมาก (DeLuca, et al, 2019 ;Jensen, 2004 ;Master, 2013 ;Zeeb, et al, 2020) (Liang, 2010) การพั ฒนาแนวทางกรอบคิ ดแบบเติ บโตและการปฏิ บั ติ การประเมิ นในชั ้ นเรี ยนของครู ให้ เหมาะสมนั ้ นผู ้ วิ จั ยจะต้ องมี สารสนเทศในอดี ตก่ อนว่ า การที ่ ครู มี กรอบคิ ดและการปฏิ บั ติ การประเมิ น ในชั ้ นเรี ยนที ่ แตกต่ างกั นนั ้ นเป็ นเพราะเหตุ ใด ประเด็ นสำคั ญอี กหนึ ่ งประเด็ นก่ อนที ่ จะนำเสนอแนว ทางการส่ งเสริ ม ผู ้ วิ จั ยต้ องวิ เคราะห์ ว่ าปั จจั ยใดบ้ างที ่ ส่ งผลต่ อกรอบคิ ดและการปฏิ บั ติ ด้ านการ ประเมิ นในชั ้ นเรี ยนของครู เพื ่ อนำไปสู ่ การพั ฒนาแนวทางทั ้ งนี ้ ข้ อค้ นพบจากการวิ จั ยที ่ ส่ วนใหญ่ มุ ่ ง พั ฒนาไปที ่ การศึ กษาระดั บการรู ้ เรื ่ องการประเมิ นของครู (Eyal, 2012;Mertler & Campbell, 2005;Volante & Fazio, 2007;Perry, 2013) ผู สำหรั บองค์ ประกอบของกรอบคิ ดจากการสั งเคราะห์ เอกสารและงานวิ จั ยที ่ เกี ่ ยวข้ อง ผู ้ วิ จั ย ได้ สั งเคราะห์ องค์ ประกอบที ่ นำไปสู ่ การส่ งเสริ มกรอบคิ ดแบบเติ บโตและการปฏิ บั ติ การประเมิ นในชั ้ น เรี ยนของครู จำนวน 3 องค์ ประกอบคื อ 1)การให้ ความสำคั ญกั บความคิ ดเห็ นของนั กเรี ยน 2) การวั ด และประเมิ นผลด้ วยความเป็ นธรรม และ 3) การเห็ นความสำคั ญของผลการประเมิ นที ่ ผ่ านมา (Jensen, 2004DeLuca et al, 2019Zeeb et al, 2020) และการปฏิ บั ติ การประเมิ นในชั ้ นเรี ยน ประกอบด้ วย 3 ด้ าน ได้ แก่ 1) การกำหนดเป้ าหมายของการวั ดและประเมิ น 2) กา...…”
unclassified