“…Adult and Gerontological Nursing พยาธิ สภาพของโรคนั บเป็ นปั จจั ยพื ้ นฐานที ่ ทำให้ ผู ้ ป่ วยโรคนี ้ มี อาการหายใจลำบาก แต่ ยั งมี ปั จจั ยอื ่ นๆ ที ่ มี ความสั มพั นธ์ กั บอาการหายใจลำบาก เช่ น ความรู ้ เกี ่ ยวกั บการจั ดการตนเอง และการ จั ดการอาการ (Disler et al, 2012;Jordan et al, 2015) ซึ ่ งต้ องสามารถจั ดการกั บภาวะต่ าง ๆ ด้ วยตนเองได้ ทุ กวั น รวมทั ้ งการทำความเข้ าใจในเรื ่ องของการใช้ ยาอย่ างเหมาะสม เทคนิ คการสู ดพ่ นที ่ ดี ส่ วนใหญ่ ยั งพบว่ า 2 ใน 3 ของผู ้ ป่ วยโรคนี ้ ที ่ พ่ นยาไม่ ถู กต้ อง ในขั ้ นตอน "การหายใจออกให้ สุ ด" (บุ ญชรั สมิ ์ ธั นธิ ติ ธนากุ ล และนรลั กขณ์ เอื ้ อกิ จ, 2560) รวมถึ งการจั ดการ และการผ่ อนคลาย ความเครี ยด ความวิ ตกกั งวล พบว่ าผู ้ สู งอายุ โรคนี ้ มี ความวิ ตกกั งวล ร้ อยละ 50-70 (Long et al, 2020) และการฟื ้ นฟู สมรรถภาพปอด เทคนิ คการหายใจอย่ างมี ประสิ ทธิ ภาพ ซึ ่ งเป็ นการดู แลรั กษา เพิ ่ มเติ มที ่ ควรจะได้ รั บ รวมไปถึ งการออกกำลั งกาย ซึ ่ งจากการศึ กษาพบว่ าผู ้ ป่ วยโรคนี ้ มี พฤติ กรรมการ ออกกำลั งกายในระดั บปานกลาง (พนาวรรณ บุ ญพิ มล, 2558) และการรั บประทานอาหารให้ เหมาะสมกั บโรคโดยการหลี กเลี ่ ยงอาหารที ่ ทำให้ เกิ ดก๊ าซในทางเดิ นอาหาร เป็ นผลทำให้ เกิ ดอาการ ท้ องอื ดได้ อี กทั ้ งปั จจั ยการสู บบุ หรี ่ ซึ ่ งยั งพบได้ ในผู ้ ป่ วยโรคนี ้ จากรายงานการสำรวจสุ ขภาพของประชาชนโดยการตรวจร่ างกาย ครั ้ งที ่ 6 พ.ศ. 2562-2563 ระบุ ว่ า ในผู ้ ป่ วยโรคปอดอุ ดกั ้ นเรื ้ อรั งยั งสู บบุ หรี ่ เป็ นประจำ คื อสู บทุ กวั น พบเพศชายมากกว่ า เพศหญิ งร้ อยละ 32.6 และ 13.2 ตามลำดั บ และโดยรวมคิ ดเป็ นร้ อยละ 28.6 (วิ ชั ย เอกพลากร และ คณะ, 2564) สอดคล้ องกั บงานวิ จั ยในอดี ต ซึ ่ งรายงานว่ า ผู ้ ป่ วยโรคปอดอุ ดกั ้ นเรื ้ อรั งยั งคงสู บบุ หรี ่ (อุ ทั ยชนิ นทร์ จั นทร์ แก้ ว และจิ ราพร เกศพิ ชญวั ฒนา, 2563; ธาดา วิ นทะไชย และนรลั กขณ์ เอื ้ อกิ จ, 2563; นุ ชรั ตน์ จั นทโร และคณะ, 2561; Wang et al, 2017;Marshall, 2016) โดยพบได้ ตั ้ งแต่ ร้ อย ละ 10-40 การสู บบุ หรี ่ ถื อเป็ นปั จจั ยเสี ่ ยงหลั กของโรคปอดอุ ดกั ้ นเรื ้ อรั ง และยั งเป็ นปั จจั ยที ่ มี ความสั มพั นธ์ กั บเกิ ดอาการหายใจลำบาก (Madan & Turner, 2019;Zhou et al, 2020;Pezzuto & Carico, 2020) รวมไปถึ งควั นบุ หรี ่ มื อสอง จากการศึ กษาความสั มพั นธ์ ระหว่ างการสู บบุ หรี ่ และการ ลดลงของค่ า Forced Expiratory Volume in one second; FEV 1 พบว่ าการสู บบุ หรี ่ ไม่ สามารถทำ ให้ ค่ า FEV 1 กลั บสู ่ ระดั บพื ้ นฐานเดิ มของผู ้ ป่ วยโรคนี ้ ได้ (Yiasrakun & Poolpol, 2020;Zhou et al, 2020) (Slev et al, 2017) รวมทั ้ งผู ้ ป่ วยโรคปอดอุ ดกั ้ นเรื ้ อรั ง พบว่ าผู ้ ป่ วยที ่ เข้ าร่ วมโปรแกรมมี ความสามารถในจั ดการอาการดี ขึ ้ นและอาการหายใจลำบากลดลง ในช่ วง 8 สั ปดาห์ (นุ ชรั ตน์ จั นทโร และคณะ, 2561) ในทำนองเดี ยวกั น มี งานวิ จั ยในสหราช อาณาจั กรรายงานว่ า โปรแกรมการสนั บสนุ นการจั ดการตนเองตามแนวคิ ดของ Glasgow และคณะ สามารถช่ วยลดจำนวนการเข้ ารั กษาในโรงพยาบาลในผู ้ ป่ วยโรคปอดอุ ดกั ้ นเรื ้ อรั งได้ (Bucknall et al, 2012) ผู ้ วิ จั ยจึ งสนใจที ่ จะพั ฒนาโปรแกรมการพยาบาลสนั บสนุ นการจั ดการตนเองสำหรั บผู ้ ป่ วยโรค ปอดอุ ดกั ้ นเรื ้ อรั ง โดยใช้ แนวคิ ดสนั บสนุ นการจั ดการตนเอง (Glasgow et al, 2003)…”