Analysis and design of overcurrent protection for grid-connected microgrid with PV generation

Comparative framework for AC-microgrid protection schemes: challenges, solutions, real applications, and future trends

“…Overcurrent relays are among the most effective devices in conventional networks. They are, however, prone to various challenges in MGs depending on the operating modes of the MGs, DERs technologies, etc., all of which affect the amount and/or direction of short circuit current, and may mislead overcurrent relays with conventional settings [94,95]. Accordingly, the concepts of adaptive relaying, in which relay parameters are upgraded dynamically based on network conditions and fault current level, are employed in MGs.…”

Concise Definition of the Overcurrent Protection System for CIGRE European Medium Voltage Benchmark Network

“…Along with benefits, their higher integration poses significant effects and challenges in the planning system and operation networks according to the uncertainty and inherent intermittence of power generation from renewable energy sources [2]. Indeed, the integration of RESs changes the network topologies and leads to different intermittent fault levels [3] [4]. These changes are a protection challenge for pre-set protection systems, as failure to operate when needed may occur.…”

เทคนิคการเพิ่มกระแสผิดพร่องสำหรับอินเวอร์เตอร์ชนิดเชื่อมต่อกริด

“…เขี ยนวิ ทยานิ พนธ์ ประโยชน์ ที ่ คาดว่ าจะได้ รั บ การจ่ ายกระแสที ่ เพิ ่ มขึ ้ นของอิ นเวอร์ เตอร์ ขณะที ่ เกิ ดความผิ ดพร่ องจะช่ วยลดผลกระทบต่ อ ระบบป้ องกั นเนื ่ องจากกระแสที ่ ผิ ดพร่ องที ่ ลดลงจากการเพิ ่ มขึ ้ นของ IIDERs โดยสามารถทำให้ รี เลย์ สามารถตั ดวงจรได้ รวดเร็ วขึ ้ นเป็ นการกำจั ดความผิ ดพร่ องในระบบ โดยที ่ ปรั บตั ้ งการจ่ ายกระแสได้ ตามความเหมาะสมของกระแสผิ ดพร่ องที ่ ต้ องการให้ ปรั บเปลี ่ ยนไปตามตำแหน่ งและขนาดของ IIDERs ได้ บทที ่ 2 งานวิ จั ยที ่ เกี ่ ยวข้ อง การลดลงของกระแสผิ ดพร่ องในระบบไฟฟ้ าเมื ่ อมี การเพิ ่ มขึ ้ นของ งานวิ จั ยที ่ [4] ได้ ทำการวิ เคราะห์ ระบบป้ องกั นของระบบไมโครกริ ดแรงดั น 400V โดยใช้ ระบบโครงข่ ายมาตรฐานของ CIGRE ที ่ ใช้ ในการศึ กษาผลกระทบต่ อการเชื ่ อมต่ อ DG เข้ ากั บระบบ โครงข่ าย โครงสร้ างของระบบทดสอบคื อ ระบบเชื ่ อมต่ อกั บหม้ อแปลง 20/0.4k 400kVA และมี PV DG ขนาด 3kW และ 4kW, แหล่ งผลิ ตไฟฟ้ าจากกั งหั นลมขนาด 5.5kW แบตเตอรี ่ ขนาด 35kVA และ 25kVA และรี เลย์ ป้ องกั นกระแสเกิ นตามตำแหน่ งในรู ปที ่ 8 โดยได้ ทดสอบด้ วยการจำลอง เปรี ยบเที ยบกระแสที ่ ผ่ านรี เลย์ ป้ องกั นกระแสเกิ นแบบเวลาผกผั นและระยะเวลาที ่ ใช้ ในการตั ดวงจร ของรี เลย์ ใน 3 สถานการณ์ คื อ ไมโครกริ ดเชื ่ อมต่ อกั บระบบโครงข่ ายไฟฟ้ าโดยไม่ มี PV, ไม โครก ริ ดเชื ่ อมต่ อกั บระบบไฟฟ้ าโดยมี PV และไมโครกริ ดแบบแยกโดด โดยทดสอบการเกิ ดความผิ ด พร่ องที ่ ตำแหน่ งต่ างๆกั น และชนิ ดของความผิ ดพร่ องทั ้ งแบบหนึ ่ งเฟสและสามเฟส ผลการจำลอง แสดงให้ เห็ นว่ า ระบบไมโครกริ ดเชื ่ อมต่ อกั บระบบโครงข่ ายไฟฟ้ าโดยไม่ มี PV ใช้ เวลาในการตั ดวงจร เฉลี ่ ยเป็ น ความผิ ดพร่ องแบบหนึ ่ งเฟสที ่ 0.131s และความผิ ดพร่ องแบบสามเฟสที ่ 0.121s ระบบ ไม โครกริ ดเชื ่ อมต่ อกั บระบบไฟฟ้ าโดยมี PV ทำให้ รี เลย์ มี ปั ญหาเกี ่ ยวกั บการตั ดวงจร เกิ ดการตั ดวงจร ผิ ดพลาดเนื ่ องจากการไหลของกระแสแบบสองทิ ศทาง และใช้ เวลาในการตั ดวงจรที ่ มากขึ ้ นเนื ่ องจาก กระแสผิ ดพร่ องน้ อยลง โดยเวลาที ่ ใช้ การตั ดวงจรโดยเฉลี ่ ยเป็ น 0.199s และ 0.135s ตามลำดั บ ส่ วน ระบบไมโครกริ ดแบบแยกโดด รี เลย์ กระแสเกิ นเกื อบทั ้ งหมดในระบบไม่ ตั ดวงจร และรี เลย์ ที ่ ยั งตั ด วงจรได้ อยู ่ ก็ จะใช้ เวลาในการตั ดวงจรที ่ มากขึ ้ นเนื ่ องจากกระแสผิ ดพร่ องน้ อยลงอย่ างมาก ผลการ ทดสอบแสดงดั งและ รู ปที ่ 8 ระบบที ่ ใช้ จำลองใน[4] …”